วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2558

ภรรยาท่านหนึ่งได้วางเงินเพื่อซื้อเครื่องจีพีเอสไว้ติดตามสามี

เรื่องที่ประสบการณผี ๆที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่ เกิดขึ้นนานมาแล้ว สมัยที่ผมยังหนุ่มเป็นคนงานสร้างเขื่อน ทางภาคเหนือ ขอรับรองว่าน่ากล้วจริง ๆ ครับ ผมหลับตา ลงทีไร ยังจำหน้าผู้หญิงคนนี้นได้ดีจนถึงทุกวันนี้เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่ผมไปสมัครงานสร้างเขื่อนนั่นล่ะ เครื่องดักฟังไร้สาย ครับ คนงานชุดแรกๆ อย่างผมต้องทำงานกรุยทางสร้างบ้าน พักโค่นต้นไม้เตรียมที่สารพัด ล้วนเป็นงานลำบากกว่าคนงานชุด หลัง ๆ ที่จะตามมาอีกมาก ส่วนบ้านของผมเองกับคนงานชุดแรก ไปไต้โกดังไม้เก่า ขอซื้อจากชาวบ้านแถวนั่นรื้อเอามาปลูกนอน กัน โดยปลูกเป็นโรงยาวไว้เก็บของด้วยเราปลูกโกดังไว้บนฝังนํ้าซึ่งเราจะใช้เป็นทางนํ้าเพื่อเปิด เขื่อน ได้อาศัยนํ้าที่นี่อาบกินเป็นประจำ ที่ตรงนี้เป็นที่เดียวกับที่ ชาวบ้านแถวนั้นหลายบ้านใช้เป็นที่อาบกินเหมือนกันด้วยเหตุนี้ ละครับต่อมาไม่นานที่ริมนํ้าก็เกิดสังคมการสังสรรค์ย่อยๆ ทุกเย็น สำคัญที่สุดก็ตรงที่มีสาวๆ เป็นสมาชิกส่วนใหญ่ พวกเธอเหล่า นั้นคักมาชุมนุมกันตามประสาสาว ซึ่งก็แน่ละเมื่อมีสาวหนุ่ม ๆ อย่างพวกผมจึงคึกคักเป็นพิเศษไม่อยากคุยหรอกครับว่า พวกผมนี่แม้จะเป็นคนงาน แต่ส่วนใหญ่หน้าตาหล่อเหลาเข้าขั้น เลยหนีไม่พ้นที่จะมี แฟนเป็นสาวบ้านแถวนี้เข้าบ้างโดยเฉพาะเจ้าคงเพื่อนผมนั้นแหละหยิบชิ้นปลาคันเชียวละ คันได้คำแก้วลูกสาวผู้ใหญ่บ้านเป็นแฟน คำแก้วเป็นคนที่สวยที่ สุดในหมู่สาวแถบนั้นเสียด้วย ผมไม่ได้อิจฉาเขาหรอกครับ กสับ อุปกรณ์นักสืบราคาถูก  ยินดีกับเขาซะด้วยชํ้า คำแก้วเป็นคนฉลาดเช้ากับคนได้ง่าย จน ไม่ช้าเธอก็กลายเป็นสมาชิกขาประจำของที่พักเราทีเดียวเราอยู่กันตามปกติครับ ไม่มีเรื่องขุ่นช้องหมองใจกันเลย ต่างคนต่างทำงานกันตามหน้าที่ ตกเย็นก็ตั้งวงสรวลเสเฮฮากัน บ้างแล้วแต่กำลังทรัพย์จนกระทั่งวันร้ายคืนร้ายมาถึง นั้นละครับ พวกเราถึงอยู่ไม่สุขกันอีกแล้วคันเกิดชิ้นในคืนแรมหลังจากที่เราอยู่มา 3 เดือนกว่า วัน นั้นอากาศค่อนช้างอับลม หลังจากที่เรากินข้าวกินปลากันเสร็จก็ ชวนกันมานอนรวมกันที่ชานโกดังซึ่งยาวจากเหนือไปใต้เรานอน หนหัวไปทางทิศตะว้นออกซึ่งมีประตูโกดังเปิดไว้ ชานทางด้าน ปลายเท้ามีช่องว่างสำหรับคนเดินได้สบาย แบตเตอรี่ ๆ เรานอนรวมกันจาก เป็นแถวจากทิศเหนือ นายขวัญ นายลอย นายหวด นายปัน ผม แล้วก็นายคง นอนเป็นคนสุดท้ายไปทางทิศใต้เรานอนคุยกันเรื่องต่างๆ จนต่างคนต่างหลับไม่รูใครหลับ ตอนไหนแต่อยู่ๆผมมารู้สึกตัวเอาตอนตีหนึ่ง เพราะได้ยินเสียง คนเดินขึ้นบันไดโกด้งมา บันใดมีสามขั้น เสียงเบเท้ายาก๊อกแก’ก เหมือนคนใส่รองเท้าไม้ ผมผงกหัวขึ้นตู เห็นว่าเป็นผู้หญิงคิดว่า เป็นคำแก้วซึ่งพวกเราก็รู้ๆกันอยู่ว่าชอบพอกับเจ้าคงซึ่งนอนติด ผมเป็นคนสุดท้าย ผมก็เลยนอนเฉยไม่อยากให้เธอรู้ว่าผมตื่นคิด อยู่ว่าคำแก้วอาจจะนัดกับคงไว้ทว่าพอผู้หญิงเดินผ่านปลายตีน ไปเท่านั้น ผมก็ขนลุกซู่ขึ้นมาท้นทีครับเพราะกลิ่นที่โชยออกมา จากร่างนั้นมันเหมือนกลิ่นซากศพและมีกลิ่นธูปอยู่ด้วย ผมสอง จิตสองใจว่าคำแก้วใส่นํ้าหอมอะไรกันถึงเหม็นชวนอาเจียนเช่นนี้ ผู้หญิงคนนั้นเดินไปตรงที่คนนอนอยู่ก็ยังไม่หยุด เธอเดินไป ดักฟังมือสอง  อีกหน่อยก็หยุดหันซ้ายหันขวา ผมมองเห็นเพราะมีแสงสลัวจาก ไฟหน้าสถานี ซึ่งมีไม่กี่ดวง ทำให้ผมเห็นว่าเธอคนนั้นยังแต่งตัว แบบนางละครห่มผ้าสไบเฉียง นุ่งผ้าถุงแบบชาวบ้าน แต่มองไม่ เห็นหน้าเพราะมองจากไฟสลัวตลอด ผมของเธอยาว ผิดกับคำ แก้วซึ่งแต่งตัวท้นสม้ย ตัดผมสั้นตัดลอนสลายหญิงคนนั้นหันรีหันขวางอยู่ลักพัก ผมแอบเห็นเธอนอน หลับสนิท กรนเบาๆ อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เธอก็เลยเดินกลับมาหยุด

เครื่องติดตามในรถยนต์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น