วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

โรงเรียนสอนหลักสูตรนักสืบเพื่อสร้างบัณฑิตให้สังคม

“เอ้ย! เป็นไปได้,ยัง!งว่ะ” ผมร้องเสืยงหลงด้วยความตกใจ “ก็เพิ่งจะไป งานกินเลี้ยงด้วยกันเพิ่งไม่กี่วันนี้เอง”“ก็มันเป็นไปแล้วหล่ะพี่ เมื่อสักครู่นี่เอง เห็นคนเค้าบอกว่าพี่แม้นเข้ามา ซื้อของในตลาดจะเอาไปขายที่บ้านพอถึงแยกตัดกับรางรถไฟไม่รู้พี่แม้นมองไม่ เห็นหรือไม่มอง ชนกับรถไฟที่กำลังแล่นมา ตายคาที่เลยพี่ นี่! ศพยังไม่ได้นำส่ง  ดักฟังระยะไกล โรงพยาบาล ยังอยู่ที่เกิดเหตุ คลุมผ้าเอาไว้ไปดูด้วยกันนะพี่” เดชาเล่าให้ฟังพร้อม ทั้งคะยั้นคะยอ ผมรีบเก็บแฟ้มเอกสาร บอกสันๆ กับเดชาว่า “ไป ไปดูด้วยกัน” แล้วผมกับเดชาก็ลงจากสำนักงานโดยผมนั่งช้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของเดชาไป เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบซาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังยืนมุงดูอยู่ด้วยความสนใจ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปรากฏอุบัติเหตุลักษณะนี้ ผมสังเกตเห็นรอยเวรสอบสวน กำลังยืนถ่ายรูปและเขียนอะไรฃยุกฃยิกลงในสมุดปกแข็งที่อยู่ในมือ ถ้าผมทาย ไม่ผิด คงจะเป็นบันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุ คลื่นความถี่ เลยออกไปประมาณ 100 เมตร พบรถไฟขบวนหนึ่ง จอดสงบนึ่งอยู่ โดยมี พรข.สองนายยืนให้ปากคำอยู่ใกล้ๆ กับขบวนรถไฟที่จอดสงบนึ่ง และบริเวณรีมทางรถไฟผมพบกับร่างๆ หนึ่งคลุม ทับไว้ด้วยผ้าปานสีขาว ผมจึงเดินแหวกยู่งชนเข้าไปเพี่อขออนุญาตร้อยเวรเปิด ผ้าออกดู เมื่อผมเปิดผ้าออกดู ผมก็พบภาพอันสยดสยองอย่างคาดไม,ถึง ศพ จีพีเอสไร้สาย  ของพี่แม้นดวงตาทั้งสองข้างยังคงเบิกโพลง แต่ไร้ซึ่งลมหายใจ เลือดไหลทะสัก ออกมาทั้งทางปากและจมุก สืรษะแหว่งหายไปซีกหนึ่ง แขนทั้งลองข้างหักห้อย บริเวณสำตัวขาดเหวอะหวะมองเห็นตับไตไล้พุงออกมาเรื่ยราด ขาข้างขวาขาด เสมอเข่า ส่วนขาข้างซ้ายกระดูกแตกเละ แทงทะลุออกมานอกเนื้อ กลิ่นคาวเลือด คละคลุ้งไปทั่วบริเวณ จนกระทั่งมืมือมาสะกิดผมเบาๆ“พี่ๆ ผมจะเก็บศพแล้ว” ผมหันไปมองพบเจ้าหน้าที่มูลนิธิสองสามคน ยืนอยู่ข้างหลังผมพร้อมกับถุงบรรจุศพ เขาบอกผมแล้วยิ้มให้ผมอย่างไมตริผม ก็ยิ้มตอบอย่างไมตริเช่นกัน“ตามสบายครับ แล้วจะเอาศพไปไว้ที่ไหน” เขาหันหน้าพร้อมกับซื้มือ ไปทางร้อยเวรสอบสวนผมว่าพี่ลองไปสอบถามผู้กองดีกว่าครับ เพราะผมก็ยังไม่ทราบเหมือน กันต้องรอผู้กองส่ง”ผมพยักหน้ารับแล้วเดินตรงไปหาผู้กองร้อยเวรสอบสวนซึ่ง ท่านก็ให้รายละเอียดกับผมเป็นอย่างดี ผมก็เลยถามว่า“ ดักฟังราคาถูก ผู้กองบอกทางบ้านพี่แม้นหรือยังครับ ผมสนิทกับที่บ้านพี่แม้นเป็น อย่างดี ถ้ายังไงให้ผมไปแจ้งให้ทราบดีมั้ยครับ” ผมอาสา แต่ผู้กองหนุ่มยิ้ม พร้อมกับส่ายหน้า“ขอบคุณมากครับพี่!” แต่ผมจัดให้สายตรวจไปแจ้งให้ทราบแล้ว ปาน นี้คงจะทราบแล้วละครับ” ผมพยักหน้ากล่าวขอบคุณอีกครั้ง แล้วชักชวนเดชา กลับสำนักงาน ก่อนจะขึ้นไปสำนักงานเดชาหันมาถามผมว่า

เครื่องติดตามตัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น